วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

อาชีพ ทรัพยากร และสังคมวัฒนธรรมทวีปอเมริกาเหนือ


อาชีพ ทรัพยากร และสังคมวัฒนธรรมทวีปอเมริกาเหนือ

อาชีพและทรัพยากร1. การเพาะปลูก มีพืชที่สำคัญ ได้แก่ - ข้าวโพด เป็นพืชเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของโลก ปลูกมากในบริเวณ ภาคกลาง โดยเฉพาะดินแดนทางตอนใต้ของทะเลสาบทั้ง 5 - ข้าวสาลี ปลูกมากบริเวณภาคกลางของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา สหรัฐอเมริกามีการปลูกข้าวสาลีฤดูหนาว (Winter wheat) ปลูกมากในเขตที่ราบภาคกลาง ที่ราบภาคใต้ และภาคตะวันออก แคนาดาปลูกข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ (Spring wheat) ปลูกมากในเขตทุ่งหญ้าแพร์รีตอนกลาง- ฝ้าย ปลูกมากในบริเวณภาคใต้บริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี ภาคตะวันตกในมลรัฐแอริโซนาและแคลิฟอร์เนีย - ถั่วเหลือง เป็นพืชที่ปลูกเมื่อไม่นานมานี้ เป็นสามารถผลิตได้มากที่สุดในโลก ปลูกมากในเขตที่ราบภาคกลางของสหรัฐอเมริกา - ยาสูบ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำชื่อเสียงให้แก่สหรัฐอเมริกา จนได้ชื่อว่า ทองคำเขียว (Green Gold) ปลูกมากบริเวณภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ มลรัฐเคนทักกี เทนเนสซี จอร์เจีย เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนา
- อ้อย เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศคิวบา และหมู่เกาะอินดีสตะวันตก บริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี มลรัฐฟลอริดาและลุยเซียนา
- ข้าวเจ้า ปลูกมากบริเวณมลรัฐทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ มลรัฐเทกซัส เทนเนสซี ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี ผลิตได้มาก และปริมาณบริโภคน้อย จึงส่งออกได้มาก
- ผักและผลไม้ต่างๆ ในเขตอบอุ่นทางภาคตะวันออก มีการปลูกเชอร์รี สตรอเบอรี แอปเปิล ทางภาคใต้เป็นเขตร้อน ปลูก ส้ม สับปะรด ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกองุ่น มะกอก ส้ม มะนาว (อากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน)
- พืชผลเมืองร้อน ได้แก่ อ้อย ยาสูบ ปลูกมากในหมู่เกาะอินดีสตะวันตก กาแฟ กล้วย ฝ้าย ปลูกมากในอเมริกากลาง
2. การเลี้ยงสัตว์
- โคเนื้อ เลี้ยงมากในเขตอากาศแห้งแล้งทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของทวีป โดยเลี้ยงแบบคอกปศุสัตว์ขนาดใหญ่ (
Livestock ranching)
- โคนม เลี้ยงมากในเขตที่ราบภาคกลางและภาคตะวันออก โดยมีการปลูกข้าวโพด ข้าวโอตและถั่วเหลืองไว้เป็นอาหารสัตว์ ทำให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพดี
- สุกร เป็ด และไก่ เลี้ยงมากในเขตเลี้ยงโคนม โดยใช้หางนมเป็นอาหารเสริมสำหรับสุกร ข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งปลูกมากในเขตนี้เป็นอาหารสัตว์ปีก
- แกะ เลี้ยงมากในเขตแห้งแล้งทางภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก
3. การทำป่าไม้ อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่ผลิตไม้มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากยุโรป ส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้ออ่อน เขตป่าไม้อยู่ภาคตะวันตกของแคนาดาในรัฐบริติชโคลัมเบีย แอลเบอร์ตา และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ในมลรัฐออริกอน วอชิงตันและแคลิฟอร์เนีย
4. การประมง แหล่งประมงสำคัญคือ
- ทางตะวันออกของเกาะนิวฟันด์แลนด์ ที่เรียกว่า แกรนด์ แบงก์ (
Grand Bank)
- บริเวณชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก และชายฝั่งตะวันตกด้านมหาสมุทรแปซิฟิก
5. การทำเหมืองแร่
1) ถ่านหิน แหล่งที่สำคัญอยู่ในเขตเทือกเขาแอปปาเลชียน และภาคตะวันตกแถบเชิงเทือกเขารอกกีของสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก
                    2) น้ำมันปิโตรเลียม แหล่งผลิตที่สำคัญ คือบริเวณตอนเหนือของมลรัฐอะแลสกา ภาคกลางตอนล่างของแคนาดา และชายฝั่งของอ่าวเม็กซิกโกจนถึงภาคใต้ของประเทศเม็กซิโก
3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี (
Mesabi Range) ในมลรัฐมินนิโซตา เป็นแหล่งแร่เหล็กที่สำคัญที่สุดในอเมริกาเหนือ
4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก
5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี
6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา
6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5
  และมลรัฐทางชายฝั่งตะวันตกและทางใต้ ย่านอุตสาหกรรมของแคนาดาอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์
- อ้อย เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศคิวบา และหมู่เกาะอินดีสตะวันตก บริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี มลรัฐฟลอริดาและลุยเซียนา - ข้าวเจ้า ปลูกมากบริเวณมลรัฐทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ มลรัฐเทกซัส เทนเนสซี ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี ผลิตได้มาก และปริมาณบริโภคน้อย จึงส่งออกได้มาก - ผักและผลไม้ต่างๆ ในเขตอบอุ่นทางภาคตะวันออก มีการปลูกเชอร์รี สตรอเบอรี แอปเปิล ทางภาคใต้เป็นเขตร้อน ปลูก ส้ม สับปะรด ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกองุ่น มะกอก ส้ม มะนาว (อากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน) - พืชผลเมืองร้อน ได้แก่ อ้อย ยาสูบ ปลูกมากในหมู่เกาะอินดีสตะวันตก กาแฟ กล้วย ฝ้าย ปลูกมากในอเมริกากลาง 2. การเลี้ยงสัตว์ - โคเนื้อ เลี้ยงมากในเขตอากาศแห้งแล้งทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของทวีป โดยเลี้ยงแบบคอกปศุสัตว์ขนาดใหญ่ (Livestock ranching) - โคนม เลี้ยงมากในเขตที่ราบภาคกลางและภาคตะวันออก โดยมีการปลูกข้าวโพด ข้าวโอตและถั่วเหลืองไว้เป็นอาหารสัตว์ ทำให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพดี - สุกร เป็ด และไก่ เลี้ยงมากในเขตเลี้ยงโคนม โดยใช้หางนมเป็นอาหารเสริมสำหรับสุกร ข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งปลูกมากในเขตนี้เป็นอาหารสัตว์ปีก - แกะ เลี้ยงมากในเขตแห้งแล้งทางภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก 3. การทำป่าไม้ อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่ผลิตไม้มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากยุโรป ส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้ออ่อน เขตป่าไม้อยู่ภาคตะวันตกของแคนาดาในรัฐบริติชโคลัมเบีย แอลเบอร์ตา และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ในมลรัฐออริกอน วอชิงตันและแคลิฟอร์เนีย 4. การประมง แหล่งประมงสำคัญคือ - ทางตะวันออกของเกาะนิวฟันด์แลนด์ ที่เรียกว่า แกรนด์ แบงก์ (Grand Bank) - บริเวณชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก และชายฝั่งตะวันตกด้านมหาสมุทรแปซิฟิก 5. การทำเหมืองแร่ 1) ถ่านหิน แหล่งที่สำคัญอยู่ในเขตเทือกเขาแอปปาเลชียน และภาคตะวันตกแถบเชิงเทือกเขารอกกีของสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก                     2) น้ำมันปิโตรเลียม แหล่งผลิตที่สำคัญ คือบริเวณตอนเหนือของมลรัฐอะแลสกา ภาคกลางตอนล่างของแคนาดา และชายฝั่งของอ่าวเม็กซิกโกจนถึงภาคใต้ของประเทศเม็กซิโก
3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี (
3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี (Mesabi Range) ในมลรัฐมินนิโซตา เป็นแหล่งแร่เหล็กที่สำคัญที่สุดในอเมริกาเหนือ
4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก
5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี
6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา
6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5
4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก 5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี 6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา 6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5  และมลรัฐทางชายฝั่งตะวันตกและทางใต้ ย่านอุตสาหกรรมของแคนาดาอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์
- อ้อย เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศคิวบา และหมู่เกาะอินดีสตะวันตก บริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี มลรัฐฟลอริดาและลุยเซียนา - ข้าวเจ้า ปลูกมากบริเวณมลรัฐทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ มลรัฐเทกซัส เทนเนสซี ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี ผลิตได้มาก และปริมาณบริโภคน้อย จึงส่งออกได้มาก - ผักและผลไม้ต่างๆ ในเขตอบอุ่นทางภาคตะวันออก มีการปลูกเชอร์รี สตรอเบอรี แอปเปิล ทางภาคใต้เป็นเขตร้อน ปลูก ส้ม สับปะรด ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกองุ่น มะกอก ส้ม มะนาว (อากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน) - พืชผลเมืองร้อน ได้แก่ อ้อย ยาสูบ ปลูกมากในหมู่เกาะอินดีสตะวันตก กาแฟ กล้วย ฝ้าย ปลูกมากในอเมริกากลาง 2. การเลี้ยงสัตว์ - โคเนื้อ เลี้ยงมากในเขตอากาศแห้งแล้งทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของทวีป โดยเลี้ยงแบบคอกปศุสัตว์ขนาดใหญ่ (Livestock ranching) - โคนม เลี้ยงมากในเขตที่ราบภาคกลางและภาคตะวันออก โดยมีการปลูกข้าวโพด ข้าวโอตและถั่วเหลืองไว้เป็นอาหารสัตว์ ทำให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพดี - สุกร เป็ด และไก่ เลี้ยงมากในเขตเลี้ยงโคนม โดยใช้หางนมเป็นอาหารเสริมสำหรับสุกร ข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งปลูกมากในเขตนี้เป็นอาหารสัตว์ปีก - แกะ เลี้ยงมากในเขตแห้งแล้งทางภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก 3. การทำป่าไม้ อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่ผลิตไม้มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากยุโรป ส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้ออ่อน เขตป่าไม้อยู่ภาคตะวันตกของแคนาดาในรัฐบริติชโคลัมเบีย แอลเบอร์ตา และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ในมลรัฐออริกอน วอชิงตันและแคลิฟอร์เนีย 4. การประมง แหล่งประมงสำคัญคือ - ทางตะวันออกของเกาะนิวฟันด์แลนด์ ที่เรียกว่า แกรนด์ แบงก์ (Grand Bank) - บริเวณชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก และชายฝั่งตะวันตกด้านมหาสมุทรแปซิฟิก 5. การทำเหมืองแร่ 1) ถ่านหิน แหล่งที่สำคัญอยู่ในเขตเทือกเขาแอปปาเลชียน และภาคตะวันตกแถบเชิงเทือกเขารอกกีของสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก                     2) น้ำมันปิโตรเลียม แหล่งผลิตที่สำคัญ คือบริเวณตอนเหนือของมลรัฐอะแลสกา ภาคกลางตอนล่างของแคนาดา และชายฝั่งของอ่าวเม็กซิกโกจนถึงภาคใต้ของประเทศเม็กซิโก
3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี (
3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี ( 3) เหล็ก แหล่งผลิตที่สำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสุพีเรียบริเวณเทือกเขาเมซาบี (Mesabi Range) ในมลรัฐมินนิโซตา เป็นแหล่งแร่เหล็กที่สำคัญที่สุดในอเมริกาเหนือ
4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก
5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี
6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา
6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5
4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก 5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี 6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา 6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 4) ทองคำ และเงิน แหล่งผลิตทองคำอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี ส่วนแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซิโก 5) ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทือกเขารอกกี 6) บอกไซต์ เป็นแร่ที่ใช้ผลิตอะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอาร์คันซอของสหรัฐอเมริกาและเกาะเจเมกา 6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหกรรมมาก ย่านอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นิวยอร์คทางชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติกเข้าไปจนถึงบริเวณทะเลสาบทั้ง 5  และมลรัฐทางชายฝั่งตะวันตกและทางใต้ ย่านอุตสาหกรรมของแคนาดาอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์

7. การค้าขาย สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีปริมาณการค้ากับภูมิภาคอื่นมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ 1) สินค้าออก ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง เหล็ก เหล็กกล้า ถ่านหิน เครื่องจักรกล ไม้ ยาสูบ รถยนต์ เครื่องบิน ฯลฯ 2) สินค้าเข้า ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบ เช่น น้ำมันปิโตรเลียม จากตะวันออกกลาง กาแฟ จากอเมริกาใต้ ชา จากศรีลังกาและอินเดีย ผลไม้เมืองร้อน จากอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ดีบุกและยางพารา จากเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ขนแกะ จากออสเตรเลีย ฯลฯ 8. การคมนาคมขนส่ง 1) ทางบก ประกอบด้วย  ทางรถไฟ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีทางรถไฟยาวรวมกันประมาณ 300,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่ยาวกว่าทางรถไฟของยุโรปทั้งทวีป ทางรถไฟของอเมริกาเหนือหนาแน่นบริเวณชายฝั่งตะวันออก
ทางรถยนต์ กลุ่มแองโกลอเมริกา มีทางหลวงที่มีผิวจราจรชั้นดีมีความยาวรวมกันมากกว่าความยาวของทางรถไฟถึง 16 เท่า และมีทางหลวงสายนานาชาติที่เชื่อมประเทศต่างๆในทวีปอเมริกาเหนือตั้งแต่แคนาดาถึงปานามา เรียกว่า ทางหลวงสายแพนอเมริกา (
Pan-American Highway Or Inter-American Highway) และต่อเข้าไปถึงเมืองหลวงของประเทศเปรู
2) ทางน้ำ ประกอบด้วย
- มหาสมุทรแอตแลนติก มีเส้นทางเดินเรือที่ใช้ขนส่งสินค้ามากที่สุดระหว่างอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป มีเมืองท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง
  เช่น  บอสตัน  นิวยอร์ก  ฟิลาเดลเฟีย  ฮาลิแฟกซ์  นิวออร์ลีนส์ ฯลฯ
- แม่น้ำและทะเลสาบ เป็นเส้นทางเดินเรือภายในทวีปที่สำคัญ ทะเลสาบทั้ง 5 แม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ แม่น้ำมิสซิสซิปปีระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกมีการขุดคลองที่คอคอดปานามา เพื่อใช้เป็นเส้นทางลัดในการเดินเรือโดยไม่ต้องผ่านแหลมฮอร์นในทวีปอเมริกาใต้ คือ คลองปานามา มีความยาว
  74  กิโลเมตร
3) ทางอากาศ มีความเจริญก้าวหน้ามากโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีทั้งเส้นทางอากาศภายในประเทศและระหว่างประเทศ
4) ทางท่อ เป็นระบบที่ใช้ในการส่งแก๊สธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหินผงและน้ำจากแหล่งผลิตไปสู่แหล่งบริโภค การขนส่งทางระบบที่ใช้ในปัจจุบันประมาณร้อยละ 50 ของโลก อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ระบบท่อขนส่งน้ำมันจากอะแสสกา-อเมริกา มีความยาวประมาณ 1
,300 กิโลเมตร และมีการติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อป้องกันน้ำมันแข็งตัว
ทางรถยนต์ กลุ่มแองโกลอเมริกา มีทางหลวงที่มีผิวจราจรชั้นดีมีความยาวรวมกันมากกว่าความยาวของทางรถไฟถึง 16 เท่า และมีทางหลวงสายนานาชาติที่เชื่อมประเทศต่างๆในทวีปอเมริกาเหนือตั้งแต่แคนาดาถึงปานามา เรียกว่า ทางหลวงสายแพนอเมริกา (Pan-American Highway Or Inter-American Highway) และต่อเข้าไปถึงเมืองหลวงของประเทศเปรู
2) ทางน้ำ ประกอบด้วย
- มหาสมุทรแอตแลนติก มีเส้นทางเดินเรือที่ใช้ขนส่งสินค้ามากที่สุดระหว่างอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป มีเมืองท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง
2) ทางน้ำ ประกอบด้วย - มหาสมุทรแอตแลนติก มีเส้นทางเดินเรือที่ใช้ขนส่งสินค้ามากที่สุดระหว่างอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป มีเมืองท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง  เช่น  บอสตัน  นิวยอร์ก  ฟิลาเดลเฟีย  ฮาลิแฟกซ์  นิวออร์ลีนส์ ฯลฯ
- แม่น้ำและทะเลสาบ เป็นเส้นทางเดินเรือภายในทวีปที่สำคัญ ทะเลสาบทั้ง 5 แม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ แม่น้ำมิสซิสซิปปีระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกมีการขุดคลองที่คอคอดปานามา เพื่อใช้เป็นเส้นทางลัดในการเดินเรือโดยไม่ต้องผ่านแหลมฮอร์นในทวีปอเมริกาใต้ คือ คลองปานามา มีความยาว
- แม่น้ำและทะเลสาบ เป็นเส้นทางเดินเรือภายในทวีปที่สำคัญ ทะเลสาบทั้ง 5 แม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ แม่น้ำมิสซิสซิปปีระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกมีการขุดคลองที่คอคอดปานามา เพื่อใช้เป็นเส้นทางลัดในการเดินเรือโดยไม่ต้องผ่านแหลมฮอร์นในทวีปอเมริกาใต้ คือ คลองปานามา มีความยาว  74  กิโลเมตร
3) ทางอากาศ มีความเจริญก้าวหน้ามากโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีทั้งเส้นทางอากาศภายในประเทศและระหว่างประเทศ
4) ทางท่อ เป็นระบบที่ใช้ในการส่งแก๊สธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหินผงและน้ำจากแหล่งผลิตไปสู่แหล่งบริโภค การขนส่งทางระบบที่ใช้ในปัจจุบันประมาณร้อยละ 50 ของโลก อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ระบบท่อขนส่งน้ำมันจากอะแสสกา-อเมริกา มีความยาวประมาณ 1
3) ทางอากาศ มีความเจริญก้าวหน้ามากโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีทั้งเส้นทางอากาศภายในประเทศและระหว่างประเทศ 4) ทางท่อ เป็นระบบที่ใช้ในการส่งแก๊สธรรมชาติ น้ำมัน ถ่านหินผงและน้ำจากแหล่งผลิตไปสู่แหล่งบริโภค การขนส่งทางระบบที่ใช้ในปัจจุบันประมาณร้อยละ 50 ของโลก อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ระบบท่อขนส่งน้ำมันจากอะแสสกา-อเมริกา มีความยาวประมาณ 1,300 กิโลเมตร และมีการติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อป้องกันน้ำมันแข็งตัว
ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมมนุษย์กลุ่มแรกของอเมริกาเหนือเป็นขาวเอเชียที่อพยพมาจาก ไซบีเรียผ่านช่องแคบเบริงเข้าสู่อะแลสกา เมื่อประมาณ 30,000 ปีมาแล้ว ต่อมาได้แพร่ขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ มนุษย์กลุ่มนี้ได้ชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกอินเดียและเอสกิโมในปัจจุบันชน เผ่าโบราณได้ทิ้งร่องรอยของอารยธรรมที่เจริญก้าวหน้าไว้ในทวีปอเมริกาเหนือ หลายแห่ง เช่น  อารยธรรมของพวกแอสเต็ก (Aztec) ในเม็กซิโก อารยธรรมของพวกมายา (Maya) ในกัวเตมาลา อารยธรรมของพวกอินคา (Inca)ในเปรู เป็นต้น  เมื่อประมาณ 200 ปีหลังจากที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมเบีย ได้ค้นพบทวีปอเมริกาเหนือแล้ว ได้มีชาวยุโรปจากหลายประเทศเข้ามามีอิทธิพลและพากันอพยพผู้คนเข้ามาอาศัยในดินแดนนี้
- อังกฤษและฝรั่งเศส เข้าครอบครองตอนเหนือของทวีปอเมริกา
- สเปน เข้าครอบครองหมู่เกาะอินดีสตะวันตก เม็กซิโกและอเมริกากลาง
การที่ชาวยุโรปเข้ามาครอบครองทวีปอเมริกาเหนือ เป็นเหตุให้สภาพสังคมและวัฒนธรรมของชาวยุโรปเข้ามามีอิทธิพลและความเป็นอยู่ของประชากรในทวีปอเมริกาเหนือด้วย
- อังกฤษและฝรั่งเศส เข้าครอบครองตอนเหนือของทวีปอเมริกา - สเปน เข้าครอบครองหมู่เกาะอินดีสตะวันตก เม็กซิโกและอเมริกากลาง การที่ชาวยุโรปเข้ามาครอบครองทวีปอเมริกาเหนือ เป็นเหตุให้สภาพสังคมและวัฒนธรรมของชาวยุโรปเข้ามามีอิทธิพลและความเป็นอยู่ของประชากรในทวีปอเมริกาเหนือด้วย


ภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ


     สภาพภูมิอากาสของทวีปอเมริกาเหนือ



ลักษณะภูมิอากาศ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศต่อทวีปอเมริกาเหนือ
1.ที่ตั้ง อเมริกาเหนือเป็นทวีปมีอาณาเขตตั้งแต่ใกล้ขั้วโลกถึงใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีอากาศทั้งในเขตหนาว อบอุ่น และร้อน แต่ส่วน
ใหญ่อยู่ในเขตอบอุ่น (ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์กับเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล)
2. ลักษณะภูมิประเทศ เทือกเขาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในแนวเหนือ-ใต้
    โดยเฉพาะทางตะวันตก เป็นกำแพงขวางกั้นทิศทางลมที่พัดนำความชื้นจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้พื้นที่ภายในทวีปเป็นเขตแห้งแล้งแบบทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย ส่วนทางตะวันออกมีเทือกเขาไม่สูงมากนัก ซึ่งวางตัวอยู่ในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ไม่ขวางกั้นทิศทางลมที่นำความชื้นจากมหาสมุทรแอตแลนติก และมีอิทธิพลต่อภูมิอากาศส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือ
3. กระแสน้ำ ชายฝั่งตะวันออกด้านมหาสมุทรแอตแลนติกของสหรัฐอเมริกา มีกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์-สตรีมไหลผ่าน ทำให้ชายฝั่งด้านนี้มีอากาศไม่หนาวเย็นมากนัก แม้จะตั้งอยู่ในละติจูดสูง ส่วนชายฝั่งตะวันออกด้านมหาสมุทรแอตแลนติกของแคนาดา มีกระแสน้ำเย็นแลบราดอร์ไหลผ่าน ทำให้มีอากาศหนาวเย็นมาก
   บริเวณที่กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมกับกระแสน้ำเย็นแลบราดอร์ ไหลมาบรรจบกัน ทำให้เป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุมมากแห่งหนึ่งของโลก เรียกว่า แกรนด์ แบงก์   ทางชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิก มีกระแสน้ำอุ่นอะแลสกาเหนือไหลผ่าน ทำให้มลรัฐวอชิงตันของสหรัฐอเมริกาและรัฐบริติชโคลัมเบีย มีอากาศอบอุ่นไม่หนาวเย็น แม้จะอยู่ในละติจูดสูง ส่วนทางใต้มีกระแสน้ำเย็นแคลิฟอร์เนียไหลเลียบชายฝั่ง ทำให้ชายฝั่งด้านนี้มีอากาศไม่ร้อนจัดในฤดูร้อน แม้จะตั้งอยู่ในละติจูดต่ำ
ภูมิอากาศในอเมริกาเหนือ แบ่งออกเป็น 12 เขต ดังนี้
1. ภูมิอากาศแบบป่าดิบชื้น (
Tropical Rainforest Climate) เป็นภูมิอากาศที่มีฝนตกชุกและอุณหภูมิสูงตลอดปี  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นป่าดิบชื้นพบบริเวณ ชายฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง บางส่วนของหมู่เกาะอินดีสตะวันตก
2. ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน (
Tropical Grassland Climate) เป็นภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิในฤดูร้อนกับฤดูหนาวแตกต่างกันมาก มีฝนตกปานกลางส่วนใหญ่ตกในฤดูร้อนและมีฤดูแล้งสลับปีละหลายเดือน  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นป่าโปร่งสลับทุ่งหญ้า เรียกว่า ทุ่งหญ้าสะวันนา (Savanna)  พบบริเวณ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเม็กซิโกและหมู่เกาะอินดีสตะวันตก ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกากลาง
3. ภูมิอากาศแบบทะเลทราย (
Desert Climate) เป็นภูมิอากาศร้อนแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยไม่เกิน 10 นิ้ว/ปี  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นพืชจำพวกตะบอกเพชรและไม้ประเภทมีหนาม พบบริเวณ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคเหนือของเม็กซิโก
4. ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย (
Steppe Climate) เป็นภูมิอากาศร้อนแห้งแล้ง ฤดูหนาวอากาศหนาวจัด ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 10-15 นิ้ว/ปี  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นทุ่งหญ้าสั้นๆ เรียกว่า ทุ่งหญ้าสเตปป์ (Steppe)  พบบริเวณ ชายขอบของทะเลทรายทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา บางส่วนของแคนาดาและเม็กซิโก
5. ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน (
Mediterranean Climate) เป็นภูมิอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งในฤดูร้อน มีอากาศอบอุ่น มีฝนตกในฤดูหนาว  พืชพรรณชาติ เป็นทุ่งหญ้าสลับป่าไม้พุ่มเตี้ยๆ หรือเรียกว่า ป่าแคระ (Chaparral)  พบบริเวณ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนกลางของมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา
6. ภูมิอากาศแบบภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก (
Marine Westcoast Climate) มีอากาศในฤดูร้อน  อบอุ่นถึงค่อนข้างเย็น ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด มีฝนตกสม่ำเสมอตลอดปี เพราะได้รับอิทธิพลจากลมประจำตะวันตก   พืชพรรณธรรมชาติ เป็นป่าไม้ผลัดใบผสมกับป่าสนพบบริเวณ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
7. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น (
Humid Subtropical Climate) มีลักษณะอากาศอบอุ่น อุณหภูมิปานกลาง ฝนตกตลอดปีไม่มีฤดูแล้ง  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นป่าไม้ใบกว้างผลัดใบ   พบบริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก   ดินแดนที่อยู่ภายในทวีปมีฝนตกน้อย พืชพรรณเป็นทุ่งหญ้ายาวในเขตอบอุ่น เรียกว่า ทุ่งหญ้าแพร์รี (Prairie)
8. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป (
Humid Continental Climate) ฤดูร้อนมีอุณหภูมิปานกลางถึงสูงมาก และมีฝนตก ฤดูหนาวมีอากาศหนาว  พืชพรรณธรรมชาติ เป็น ป่าสนผสมป่าไม้ผลัดใบ   พบบริเวณ พื้นที่ทางตะวันออกและตะวันตกของทะเลสาบทั้ง 5 ( บริเวณทางตอนใต้ของแคนาดาและตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา)
9. ภูมิอากาศแบบไทกา (
Taiga Climate) หรือ ภูมิอากาศกึ่งขั้วโลก มีฤดูร้อนมีอากาศค่อนข้างเย็น มีระยะเวลาสั้น มีฝนตกน้อย ฤดูหนาวมีอากาศหนาวจัด มีหิมะตก   พืชพรรณธรรมชาติ ป่าสน เป็นแหล่งไม้เนื้ออ่อนที่สำคัญของอเมริกาเหนือ พบบริเวณมลรัฐอะแลสกา และพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือของแคนาดา
10. ภูมิอากาศแบบทุนดรา (
Tundra Climate) หรือ ภูมิอากาศแบบขั้วโลก เป็นภูมิอากาศที่มีอากาศหนาวจัดตลอดปี ในฤดูร้อนไม่เดือนใดที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 10 องศาเซลเซียส  พืชพรรณธรรมชาติ เป็นพวกตะไคร่น้ำ มอสส์  พบบริเวณชายฝั่งของมหาสมุทรอาร์กติกของมลรัฐอะแลสกาและแคนาดา
11. ภูมิอากาศแบบทุ่งน้ำแข็ง (
Ice-cap Climate) พบบริเวณ ตอนกลางของเกาะกรีนแลนด์ มีอากาศหนาวจัดและมีน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี
12. ภูมิอากาศแบบที่สูง (
Highland Climate) ภูมิอากาศที่อากาศเปลี่ยนแปลงไปตามความสูงของพื้นที่ทุก ๆ ความสูง 180 เมตร อุณหภูมิลดลง 1 องศาเซลเซียส

ภูมิลักษณ์ของทวีปอเมริกาเหนือ

   ภูมิลักษณ์ทางกายภาพของทวีปอเมริกาเหนือ

ลักษณะทางกายภาพ

1. ที่ตั้ง อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือ ระหว่างละติจูดประมาณ 7-83 องศาเหนือ ลองจิจูด17-172 องศาตะวันตก โดยมีเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ลากผ่านตอนกลางของประเทศเม็กซิโก
2. อาณาเขต
1) ทิศเหนือ ติดต่อกับสมุทรอาร์กติก
  มีน่านน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ทะเลโบฟอร์ต อ่าวแบฟฟิน อ่าวฮัดสัน ช่องแคบเดวิส และทะเลแลบราดอร์   เกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะกรีนแลนด์ เกาะแบฟฟิน เกาะวิกตอเรีย เกาะเอลสเมียร์ และหมู่เกาะควีนอลิซาเบธ ซึ่งอยู่ในเขตอากาศหนาว จึงมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจน้อย มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง
2) ทิศตะวันออก ติดต่อกับสมุทรแอตแลนติก
  มีเกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะนิวฟันด์แลนด์ เกาะเบอร์มิวดา และหมู่เกาะบาฮามาส
3) ทิศใต้ ติดต่อกับ มหาสมุทรแปซิฟิก ทวีปอเมริกาใต้ มีคลองปานามาเป็นแนวแบ่งเขตทวีปน่านน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก
  มีเกาะที่สำคัญ คือ หมู่เกาะอินดีสตะวันตก ได้แก่ เกาะคิวบา เกาะฮิสแปนิโอลา เกาะจาเมกา เกาะเปอร์โตริโก
4) ทิศตะวันตก ติดต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตอนเหนือของทวีปมีช่องแคบเบริงคั่นระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับทวีปเอเชีย มีคาบสมุทรที่สำคัญ คือ คาบสมุทรแคลิฟอร์เนีย และคาบสมุทรอะแลสกาน่านน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ทะเลเบริง อ่าวอะแลสกา อ่าวแคลิฟอร์เนีย
  เกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะแวนคูเวอร์ หมู่เกาะอาลูเชียน และหมู่เกาะควีนชาร์ล็อต
3. ขนาดพื้นที่
อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีขนาดเนื้อที่ประมาณ 24
,247,000 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากทวีปเอเชียและแอฟริกา รูปร่างของทวีปอเมริกาเหนือคล้ายรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ คือมีฐานกว้างอยู่ทางเหนือและปลายแหลมอยู่ทางใต้ ความกว้างของทวีปตั้งแต่ช่องแคบเบริงถึงเกาะนิวฟันด์แลนด์ประมาณ 4,828 กิโลเมตร และส่วนที่แคบที่สุดที่คอคอดปานามา กว้างประมาณ 50 กิโลเมตร
4. ภูมิภาค
   อเมริกาเหนือแบ่งตามสภาพสังคมวัฒนธรรม มี 2 ส่วน ได้แก่ แองโกลอเมริกาและละตินอเมริกา   โดยถือเอาแม่น้ำริโอแกรนด์ (Rio Grande) เป็นพรมแดนระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกาเป็นแนวแบ่ง
1. แองโกลอเมริกา (
Anglo-America) คือ ดินแดนที่อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำริโอแกรนด์ ประกอบด้วยประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวอังกฤษ
2. ละตินอเมริกา (
Latin-America) คือ ดินแดนของประเทศต่างๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำริโอแกรนด์ ประชากรส่วนใหญ่สืบเชื้อสายและวัฒนธรรมมาจากสเปนและโปรตุเกส ประกอบด้วย
2.1 อเมริกากลาง หมายถึง ดินแดนที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำริโอแกรนด์ ได้แก่ เม็กซิโก เบลิซ คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส นิการากัว และปานามา
2.2 ประเทศที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ได้แก่ บาฮามาส บาร์เบโดส คิวบา โดมินิกัน เกรเนดา เฮติ เจเมกา
  เปอร์โตริโก ตรินิแดดและโตเบโก แอนติกาและบาร์บูดา โดมินิกา กวาเดอลูปมาร์ตินีก   เนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส เซนต์คิดส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
ลักษณะภูมิประเทศ แบ่งออกเป็น 4 เขต
1) เขตหินเก่าแคนาดา (Canadian Shield) ได้แก่ พื้นที่บริเวณรอบๆ อ่าวฮัดสันลงมาถึงทะเลสาบทั้ง 5เป็นเขตหินที่เก่าแก่ที่สุดเช่นเดียวกับบอลติกชีลด์ในทวีปยุโรป ประกอบด้วยหินเปลือกโลกที่มีอายุเก่าแก่และผ่านการสึกกร่อนมานาน ลักษณะของพื้นที่จึงเป็นที่ราบเกือบทั้งหมดและอยู่ในเขตอากาศหนาวจัด ทางตอนเหนือมีเกาะใหญ่น้อยมากมาย พื้นที่ส่วนใหญ่มีธารน้ำแข็งปกคลุม มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางและมีจำนวนน้อยมาก
2) เขตเทือกเขาภาคตะวันออก มีอาณาเขตตั้งแต่เกาะนิวฟันด์แลนด์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแคนาดาลงมาถึงภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เป็นเขตหินเก่าแต่มีอายุน้อยกว่าเขตหินเก่าแคนาดา ประกอบด้วยเทือกเขาเตี้ยๆ ที่ผ่านการสึกกร่อนมานาน ได้แก่ เทือกเขาแอปปาเลเชียน มียอดเขาสูงสุดชื่อ ยอดเขามิตเชล อยู่ในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา สูง 2
,005 เมตร
3) เขตเทือกเขาสูงภาคตะวันตก เป็นเขตเทือกเขาสูงที่สลับซับซ้อนกันหลายแนวที่เกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลกที่มีอายุน้อย จึงเป็นเขตที่มักเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหว มีอาณาบริเวณตั้งแต่ตอนเหนือสุดของช่องแคบแบริงจนถึงประเทศปานามา ได้แก่ เทือกเขาอะแลสกา มียอดเขาสูงสุดในทวีปอเมริกเหนือ ชื่อ ยอดเขาแมกคินลีย์ (6
,190 เมตร) เทือกเขารอกกี เทือกเขาแคสเกต เทือกเขาเซียราเนวาดา เทือกเขาเซียรามาเดร และเทือกเขาโคสต์  ระหว่างเทือกเขาสูงเหล่ามีที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาที่สำคัญ คือ ที่ราบสูงอะแลสกา ที่ราบสูงบริติชโคลัมเบีย ที่ราบสูงเกรตเบซิน ที่ราบสูงโคโลราโด และที่ราบสูงเม็กซิโก โดยเฉพาะที่ราบสูงโคโลราโด มีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นโกรกธาร หุบเหวลึก มีหน้าผาสูงชัน ซึ่งเป็นผลมาจากการไหลของแม่น้ำโคโลราโด ทำให้เกิดการกัดเซาะดินและชั้นหิน เกิดเป็นภูมิประเทศที่สวยงาม ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) ในมลรัฐแอริโซนา และมีอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงมาก คือ อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน เป็นอุทยานน้ำพุร้อนกีเซอร์ รวม 120 แห่ง
4) เขตที่ราบภาคกลาง เป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีอาณาเขตตั้งแต่มหาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือลงมาจนถึงอ่าวเม็กซิโกทางตอนใต้ และระหว่างเทือกเขารอกกีกับเทือกเขาแอปปาเลเชียน ประกอบด้วยชั้นหินที่เกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก ลักษณะโดยทั่วไปเป็นที่ราบลูกคลื่น คือ บริเวณที่สูงจะอยู่ตอนเหนือและเขตติดต่อกับเทือกเขารอกกี บริเวณตอนกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำต่างๆ ประกอบด้วยเขตที่ราบ 6 เขต คือ
4.1 ที่ราบลุ่มแม่น้ำแมกเคนซี (
Mackenzie Lowlands) อยู่ตอนเหนือสุดระหว่างเขตหินเก่าแคนาดากับเทือกเขาแมกคินลีย์ เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำแคบๆ มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็น
4.2 ที่ราบแพร์รีแคนาดา (
Canadian Prairie) เป็นที่ราบใหญ่อยู่ทางภาคกลางของแคนาดา ได้แก่ บริเวณรัฐแมนิโทบา ซัสแคตเชวัน แอลเบอร์ทา เป็นเขตปลูกข้าวสาลีที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
4.3 ที่ราบลุ่มทะเลสาบทั้ง 5 และลุ่มแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ (
Great Lakes and St.Lawrence) ทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่ ทะเลสาบสุพีเรีย (ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก) มิชิแกน ฮูรอน อีรี และออนแตริโอ เป็นแหล่งน้ำที่มีอาณาเขตติดต่อกัน และระหว่างทะเลสาบอีรีกับออนแตริโอมีน้ำตกขนาดใหญ่ ชื่อว่า น้ำตกไนแอการาและที่ชายฝั่งทะเลสาบออนแตริโอ มีทางระบายซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก เขตที่ราบรอบทะเลสาบทั้ง 5 และลุ่มแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ มีดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก และเป็นบริเวณที่การขนส่งทางน้ำภายในทวีปสำคัญที่สุดในโลก จึงเป็นเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น
4.4 ที่ราบลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี-มิสซูรี (
Missisippi-Missouri Plain) เป็นที่ราบที่เกิดจากแม่น้ำพัดเอาดินตะกอนมาทับถมเป็นบริเวณกว้าง เหมาะแก่การเพาะปลูก ได้แก่ แม่น้ำมิสซิสซิปปี ซึ่งมีความยาวที่สุดในอเมริกาเหนือ ยาว 3,779 กิโลเมตร ไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก และมีแม่น้ำสาขา คือ แม่น้ำมิสซูรี โอไฮโอ เทนเนสซี อาร์คันซอส์  เป็นเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นแห่งหนึ่งของอเมริกาเหนือ
4.5 ที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกและชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก (
Gult Coast and Atlantic Plain)  มีบริเวณตั้งแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาแอปปาเลเชียนลงไปทางใต้ถึงอ่าวเม็กซิโก โดยเฉพาะที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกเป็นเขตที่มีอากาศร้อน จึงเหมาะแก่การปลูกพืชเมืองร้อน เช่น ยาสูบ ข้าวเจ้า ฝ้าย ผลไม้ต่างๆ
4.6 ที่ราบบนที่สูง (
High Plains)ได้แก่ พื้นที่ทางด้านตะวันออกของเทือกเขารอกกี ซึ่งเป็นเขตเงาฝนหรือเขตอับลม ทำให้มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีต่ำ เป็นเขตเหมาะสำหรับปลูกข้าวสาลี โดยใช้เครื่องจักรทุ่นแรงในการเพาะปลูกแบบไร่ขนาดใหญ่

แผนที่เขตภุมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ


แผนที่เขตภุมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ


แผนที่ภูมิลักษณ์ของทวีปอเมริกาเหนือ


แผนที่ภูมิลักษณ์ของทวีปอเมริกาเหนือ


วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภูมิภาคอเมริกาเหนือ




            ภูมิภาคอเมริกาเหนือ


    สหรัฐอเมริกา







      ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วยรัฐ 50 รัฐ และ 1 เขตการปกครอง คือ District of Columbia ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงวอชิงตัน มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศเหนือ และประเทศเม็กซิโกทางทิศใต้ สหรัฐอเมริกามีพื้นที่ขนาด 9.63 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 308 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ในปี 2552 กว่า 14.26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั้งหมดทั่วโลก
ภูมิภาคเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาแบ่งได้ดังนี้









New England (ประกอบด้วยรัฐ Connecticut, Maine, Massachusetts, New Hampshire, Rhode Island, Vermont)





    เขต New England มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐฯ ส่งผลให้แรงงานในภูมิภาคนี้มีการศึกษาในระดับสูงจำนวนมาก และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นนำ สถาบันการศึกษาและวิจัย โดยมี Boston เป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาคและเป็นที่ตั้งของกองทุนชั้นนำ ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนให้กับภาคเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาค อุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ได้แก่ พลังงานทดแทน, อาหารแปรรูป โดยเฉพาะอาหารทะเล, Biotech, ยา, เครื่องมือแพทย์, แปรรูปโลหะ, อากาศยาน และนาโนเทคโนโลยี เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Boston Scientific, Biogen Idec, Covidien, General Electric, Genzyme, Raytheon, Staples, Textron, United Technologies, Xerox เป็นต้น
 
งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค


Mid Atlantic (ประกอบด้วยรัฐ Delaware, Maryland, New Jersey, New York, Pennsylvania, District of Columbia, Virginia, West Virginia)









   เขต Mid Atlantic หรือ Middle Atlantic มีประชากรประมาณ 60 ล้านคน ซึ่งมีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ และเป็นภูมิภาคที่มีสำคัญทั้งด้านการค้า การปกครอง อุตสาหกรรม และเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นที่ตั้งของ Washington D.C. ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐฯ และเมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ New York, Baltimore, Philadelphia, Pittsburgh, Norfolk ซึ่งรัฐส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ติดอันดับอยู่ใน 15 รัฐที่มีรายได้สูงสุดของสหรัฐอเมริกา อุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ อุตสาหกรรมการเงิน, ยา, Biotech, เครื่องมือแพทย์, อาหารแปรรูป, แปรรูปโลหะ, Software และ ICT (Information & Communication Technology) เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Alcoa, Black & Decker, Campbell Soup, Constellation Energy, DuPont, FMC, Heinz, Hershey, Honeywell, ITT, Johnson & Johnson, Lockheed Martin, McCormick, Merck, Penske, PepsiCo, Pfizer, Rohm & Haas เป็นต้น
งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค


Midwest (ประกอบด้วยรัฐ Illinois, Indiana, Iowa, Kansas, Kentucky, Michigan, Minnesota, Missouri, Nebraska, North Dakota, Ohio, South Dakota, Wisconsin)




   ภูมิภาค Midwest ของสหรัฐฯ มีประชากรรวมกันประมาณ 70 ล้านคน และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญภูมิภาคหนึ่งของสหรัฐฯ เมืองใหญ่ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ Chicago, Detroit, Minneapolis, St. Louis. Cleveland, Cincinnati, Columbus, , Louisville, Milwaukee, Kansas City, Wichita และ Indianapolis ตลาดภูมิภาค Midwest จัดเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยมีเมือง Chicago เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และมีจำนวนสมาคมองค์กรทางการค้าและอุตสาหกรรมมากเป็นอันดับที่ 2 ของสหรัฐฯ และมีการจัดงานนิทรรศการอุตสาหกรรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ ภูมิภาค Midwest เป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของสหรัฐฯ อุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ ยานยนต์, การเกษตร, อาหารแปรรูป, Biotech, เครื่องมือแพทย์, อากาศยาน, และพลังงานทดแทน เป็นต้น

บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
3M, Affinia Group, American Axle & Manufacturing, AON, Archer Daniels Midland, ArvinMeritor, Baxter International, Berkshire Hathaway, Boeing, Cardinal Health, Caterpillar, ConAgra Foods, Dana Holding, Deere, Delphi, Donaldson, Dow Chemical, Eaton, Eli Lilly, Emerson Electric, Ford Motor, General Mills, General Motors, GMAC, Goodyear Tire, Harley-Davidson, Hospira, Illinois Tool Works, Imation, Kellogg, Kraft Foods, Kroger, Medtronic, Monsanto, Motorola, Lexmark International, Polaris Industries, Procter & Gamble, Rockwell Collins, Sara Lee, Sherwin-Williams, Sigma-Aldrich, Solo Cup, Sprint Nextel, St. Jude Medical, Stryker, Tenneco, TRW Automotive, UnitedHealth Group, Visteon, W.W. Grainger, Whirlpool, Yum Brands เป็นต้น
งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

Southeastern (ประกอบด้วยรัฐ Alabama, Florida, Georgia, Mississippi, North Carolina, South Carolina, Tennessee)






    ภูมิภาค Southeastern มีประชากรประมาณ 57 ล้านคน ซึ่งรัฐ Florida มีจำนวนประชากรมากที่สุด ประมาณ 18 ล้านคน นอกเหนือจากอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักในภูมิภาคแล้ว ภูมิภาคดังกล่าวยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรม ICT, อาหารแปรรูป, อากาศยาน และยานยนต์ ซึ่งบริษัทรถยนต์ทั้งของสหรัฐฯ และต่างชาติได้เข้ามาดำเนินธุรกิจตั้งโรงงานในภูมิภาค อาทิ เช่น Mercedes-Benz, Hyundai, Honda, Toyota ในรัฐ Alabama; BMW ในรัฐ South Carolina; GM, Nissan, Volkswagen ในรัฐ Tennessee; Nissan, Toyota ในรัฐ Mississippi; KIA ในรัฐ Georgia นอกจากนี้ ในพื้นที่ Research Triangle Park รัฐ North Carolina เป็นศูนย์ทำการวิจัยที่สำคัญแหล่งหนึ่งของสหรัฐฯ เมืองใหญ่ในภูมิภาค ได้แก่ Jacksonville, Charlotte, Memphis, Nashville, Atlanta, Miami, Raleigh เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Coca-Cola, Eastman Chemical, FedEx, Goodrich, Hanes Brands, Home Depot, United Parcel Service เป็นต้น

งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

South Central (ประกอบด้วยรัฐ Arkansas, Louisiana, Oklahoma, Texas)






      ภูมิภาค South Central มีประชากรประมาณ 36 ล้านคน โดยมีรัฐ Texas มีจำนวนประชากรมากที่สุด ประมาณ 24 ล้านคน เมืองสำคัญในภูมิภาคดังกล่าว ได้แก่ Dallas, Houston, Little Rock, New Orleans, Oklahoma City, San Antonio รัฐ Texas เป็นที่ตั้งของบริษัทใน FORTUNE 500 ทั้งหมด 56 บริษัท อุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ ICT, น้ำมันและก๊าซ, พลังงานทดแทน, เคมี, อากาศยาน, อาหารแปรรูป เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
AT&T, ConocoPhillips, Dell, Exxon Mobil, Halliburton, KBR, Kimberly-Clark, Texas Instruments, Tyson Foods, Valero Energy, Walmart เป็นต้น
งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

Rocky Mountain & Southwest (ประกอบด้วยรัฐ Arizona, Colorado, Montana, New Mexico, Utah, Wyoming)






    ภูมิภาค Rocky Mountain และ Southwest ของสหรัฐฯ มีประชากรรวมกันประมาณ 20 ล้านคน มีสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูง เมืองใหญ่ในภูมิภาค ได้แก่ Denver, Phoenix, Salt Lake City และ Albuquerque อุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ เหมืองแร่, น้ำมัน, เคมี, อากาศยาน, และ ICT ซึ่งแหล่งอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงจะตั้งในรัฐ Colorado และ Arizona
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Qwest Communications, Huntsman, First Solar
เป็นต้น
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค
Pacific Northwest (ประกอบด้วยรัฐ Alaska, Idaho, Oregon, Washington)






    ภูมิภาค Pacific Northwest มีประชากรประมาณ 13 ล้านคน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมือง Seattle ซึ่งมีประชากรประมาณ 3.5 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติที่สำคัญ ภูมิประเทศในภูมิภาคดังกล่าวมีความหลากหลาย อาทิ รัฐ Idaho เป็นแหล่งเกษตรกรรม ปลูกมันฝรั่ง, รัฐ Alaska เป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ น้ำมันและก๊าซ, รัฐ Washington และ Oregon เป็นแหล่งอุตสาหกรรมอากาศยาน, Biotech, ICT, พลังงานทดแทน เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Microsoft, Micron Technology, Nike, Paccar, Starbucks เป็นต้น
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค
Pacific (ประกอบด้วยรัฐ California, Hawaii, Nevada)







      ภูมิภาค Pacific ของสหรัฐฯ มีประชากรประมาณ 41 ล้านคน ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐ California ประมาณ 37 ล้านคน โดยคิดเป็นร้อยละ 12 ของประชากรทั้งหมดของสหรัฐฯ แหล่งอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐ California เมืองสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ Los Angeles, San Francisco, San Diego, San Jose, Las Vegas นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ตั้ง Silicon Valley ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรม Software และ ICT ที่ลำคัญของโลก อุตสาหกรรมสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาค ได้แก่ อาหารแปรรูป, Biotech, เครื่องมือแพทย์, พลังงานทดแทน เป็นต้น
บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค
Advanced Micro Devices, Amgen, Apple, Applied Materials, Broadcom, Chevron, Cisco Systems, Dole Food, Electronic Arts, Google, Hewlett-Packard, Intel, Mattel, Northrop Grumman, Oracle, Qualcomm, Sandisk, Seagate Technology, Sun Microsystems, Western Digital, Yahoo เป็นต้น
งานนิทรรศการอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาค
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

      แคนาดา  ประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ประกอบไปด้วย 10 รัฐ และ 3 ดินแดน (Territories) ซึ่งรัฐมีกฏหมายปกครองโดยตรง และดินแดนนั้นอยู่ภายใต้กฏหมายของสหพันธ์รัฐ ปัจจุบันประเทศแคนาดามีประชากรประมาณ 32 ล้านคน ซึ่งการเพิ่มจำนวนประชากรมาจากการอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมดที่เพิ่มขึ้น จากรายงานของ World Competitiveness Yearbook พบว่าชาวแคนาดาสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในสัดส่วนที่มากที่สุด ของประชากรของประเทศ 







รัฐที่มีประชากรมากที่สุด คือ รัฐ Ontario มีประชากรประมาณ 13 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ได้แก่ Ottawa ขณะที่เมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ Toronto, Montreal, Vancouver, Quebec City, Calgary และ Edmonton

ภูมิภาคเศรษฐกิจของแคนาดาแบ่งได้ดังนี้

Atlantic Canada (ประกอบด้วยรัฐ New Brunswick, Newfoundland and Labrador, Nova Scotia, Prince Edward Island)



      ภูมิภาค Atlantic มีประชากรประมาณ 2.3 ล้านคน โดยเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คือ Halifax ประชากรในภูมิภาคมีสัดส่วนจบการศึกษามากที่สุดเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ในประเทศ มีภาษาทางการ 2 ภาษา ได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส ระบบโทรคมนาคมในภูมิภาคเชื่อมต่อกับทวีปยุโรปทาง Trans-Atlantic Fiber optic อุตสาหกรรมในภูมิภาค ได้แก่ อากาศยาน, เกษตรและประมง, Biotech, น้ำมันและก๊าซ, พลังงานทดแทน , และวิทยาศาตร์เทคโนโลยีทางทะเล เป็นต้น บริษัทชั้นนำที่ตั้งในภูมิภาค ได้แก่ Genesys, Honeywell Aerospace, Michelin Tire, Xerox, CGI เป็นต้น


Northern Canada (ประกอบด้วย 3 ดินแดน ได้แก่ Northwest Territories, Nunavut, Yukon Territory)








    ภูมิภาค Northern Canada มีประชากรประมาณ 100,000 คน ซึ่งกว่าร้อยละ 50 ของประชากรเป็นชาวพื้นเมืองดั้งเดิม เมืองสำคัญ ได้แก่ Yellowknife และ Whitehorse อุตสาหกรรมสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ เหมืองแร่, พลังงาน, น้ำมันและก๊าซ, การเกษตรและประมง บริษัทชั้นนำที่ตั้งในภูมิภาค ได้แก่ Exxon Mobil, Chevron, Caterpillar, DeBeers, Shell, SNC Lavalin, PetroCanada เป็นต้น


Western Canada (ประกอบด้วย 4 รัฐ ได้แก่ Alberta, British Columbia, Manitoba, Saskatchewan)






     ภูมิภาค Western Canada มีประชากรประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐ British Columbia 4.5 ล้านคน และ Alberta 3.7 ล้านคน เมืองสำคัญ ได้แก่ Vancouver, Calgary, Edmonton, Winnipeg, Victoria, Saskatoon และ Regina อุตสาหกรรมสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ น้ำมันและก๊าซ, เหมืองแร่โปแตส, การเกษตร, Biotech, ICT, และเครื่องมือแพทย์ ค่า GDP ของภูมิภาค Western Canada คิดเป็นร้อยละ 32 ของทั้งประเทศ และมีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจกว่า 4 เท่าของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

Ontario





รัฐ Ontario มีประชากรประมาณ 13 ล้านคน มีมูลค่า GDP สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เมืองสำคัญ ได้แก่ Toronto และ Ottawa สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ (ร้อยละ 40) และเครื่องจักร (ร้อยละ 11) อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์, อากาศยาน, เคมี, อาหารแปรรูป, โลหะแปรรูป, ICT บริษัทชั้นนำที่ตั้งในภูมิภาค ได้แก่ Bayer, Bombardier, CAE, Celestica, DuPont, Eli Lilly, Ford Motor, General Motors, GlaxoSmithKline, Honeywell, Lucent, Magna International, Nortel Networks, Novartis, Pfizer, Pratt & Whitney, Research in Motion, Siemens, และ Toyota เป็นต้น
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค

Quebec



    รัฐ Quebec มีประชากรประมาณ 8 ล้านคน มีมูลค่า GDP สูงเป็นอันดับสองของประเทศ เมืองสำคัญ ได้แก่ Montreal และ Quebec City สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ชิ้นส่วนอากาศยาน เครื่องบิน กระดาษ ทองแดง อลูมิเนียม อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อากาศยาน, เคมี, เหมืองแร่, และ Biotech เป็นต้น บริษัทชั้นนำที่ตั้งในภูมิภาค ได้แก่ Abbott Laboratories, Alcoa, Bell Helicopter Textron, Bombardier, CGI, Covance, Frito-Lay, General Electric, Johnson & Johnson, Kraft, Lockheed Martin, Nestle, Nortel Networks, Paccar, Pratt & Whitney, Rolls-Royce, และ Volvo เป็นต้น
หน่วยงานที่สำคัญในภูมิภาค




เม็กซิโก

ประเทศเม็กซิโก หรือ สหรัฐเม็กซิโก (United Mexican States) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือมีพรมมแดนทางทิศเหนือจรดสหรัฐอเมริกา ทิศใต้และทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศตะวันออกเฉียงใต้จรดกัวเตมาลา เบลีซ และทะเลแคริบเบียน ส่วนทิศตะวันออกจรดอ่าวเม็กซิโก เนื่องจากครอบคลุมพื้นที่ถึงเกือบ 2 ล้านตารางกิโลเมตร เม็กซิโกจึงเป็นประเทศที่มีเนื้อที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของทวีปอเมริกา และเป็นอันดับที่ 14 ของโลก นอกจากนี้ยังมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลกคือประมาณ 109 ล้านคน โดยประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นชนผิวขาวผสมอินเดียแดงพื้นเมือง, อเมริกาอินเดียแดง ร้อยละ 30, คอเคเชียน ร้อยละ 9 และอื่นๆ ร้อยละ 1.

รัฐที่มีประชากรมากที่สุด คือ รัฐ เฟเดอรัลดิสตริกต์มีประชากรประมาณ 20ล้านคนและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ได้แก่ เม็กซิโกซิตีขณะที่เมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ Guadalajara, Monterrey, และ Puebla.




จากการสำรวจของธนาคารโลก พบว่าเม็กซิโกจัดเป็นประเทศที่มีรายได้ขนาดกลางค่อนข้างสูง ( Upper Middle Income) ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลก ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ประมาณ 1.567 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553







แค